Essential Ways to Make Life Easier

รวมทริคการจัดตู้เย็น เก็บได้เยอะ ทานได้นาน

การจัดเตรียมตู้เย็นให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถเก็บรักษาอาหารได้อย่างยาวนาน ในบทความนี้เราจะสำรวจถึงเคล็ดลับต่าง ๆ
ในโลกที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและสภาพแวดล้อมที่ทุกวันนี้ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของอากาศ การจัดเตรียมตู้เย็นให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถเก็บรักษาอาหารได้อย่างยาวนาน ในบทความนี้เราจะสำรวจถึงเคล็ดลับต่าง ๆ เพื่อให้คุณสามารถใช้ตู้เย็นของคุณอย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงวิธีการจัดการและเก็บรักษาอาหารในตู้เย็นของคุณ
ก่อนที่เราจะเริ่มต้นการจัดเตรียมตู้เย็นให้เหมาะสม มีขั้นตอนแรกที่สำคัญที่ต้องทำคือการสำรวจสอบว่ามีอะไรบ้างในตู้เย็นที่อาจจะหมดอายุแล้วหรือไม่ ถ้าพบว่ามีอาหารหรือเครื่องดื่มที่หมดอายุอยู่ในตู้ เราควรจัดการนำออกและทิ้งทันที หลังจากที่เราทำการทิ้งอาหารหมดอายุแล้ว เป็นเวลาที่จะทำความสะอาดตู้เย็นให้หมดจด พร้อมที่จะนำของที่เหลือมาจัดเตรียมใหม่ในตู้เย็น การทำความสะอาดควรทำอย่างละเอียดเพื่อให้มั่นใจว่าทุกมุมของตู้เย็นมีความสะอาดและปลอดภัย
หลังจากที่ทำความสะอาดเสร็จสิ้น เราต้องพิจารณาถึงประเภทของอาหารที่เราต้องการเก็บในตู้เย็นด้วย บางชนิดของอาหารสามารถเก็บนอกตู้เย็นได้โดยไม่ต้องนำมาแช่ที่ในตู้ เช่น น้ำผึ้ง มันฝรั่ง ขนมปัง ส้ม และเครื่องประป๋องต่าง ๆ

ทริคการจัดตู้เย็นในแต่ละส่วนให้เหมาะสม

สำหรับตู้เย็นปกติที่มีทั้งช่องฟรีซ (แช่แข็ง) ชั้นวางบริเวณประตู และชั้นวางในตู้ ควรจะนำอาหารมาจัดเก็บตามลักษณะของแต่ละช่อง ดังนี้

1. ช่องฟรีซหรือช่องแช่แข็ง

พิจารณาถึงอาหารที่ต้องการเก็บไว้นาน ๆ ในตู้เย็น เราควรให้ความสำคัญกับการแช่แข็งเพื่อรักษาความสดให้กับอาหาร เช่น ผลไม้ หรือเนื้อสัตว์เช่นหมู เนื้อไก่ หรือกุ้งสด ซึ่งสามารถเก็บนานได้ นอกจากนี้ น้ำซุปเป็นอีกประการหนึ่งที่สามารถเก็บไว้ในช่องฟรีซได้นาน ๆ โดยเฉพาะหากคุณเตรียมน้ำซุปเอง ควรนำมาแช่แข็งในบริเวณที่เหมาะสม
สำหรับแผ่นแป้งหรือขนมปังที่ยังไม่ได้สไลด์ สามารถห่อด้วยพลาสติกแรป (plastic wrap) เพื่อรักษาความสดและคงความอร่อยไว้ โดยควรเก็บในช่องฟรีซเพื่อป้องกันการสูญเสียคุณภาพของขนมปัง เมื่อต้องการรับประทานขนมปังนี้ คุณสามารถนำออกมาแล้วนำไปใส่ไมโครเวฟหรืออบในเตาอบที่อุณหภูมิ 60 องศา เพื่อให้ขนมปังนุ่มนวลและอร่อยเหมือนเดิม
การจัดเตรียมตู้เย็นให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถเก็บรักษาอาหารได้อย่างยาวนาน ในบทความนี้เราจะสำรวจถึงเคล็ดลับต่าง ๆ

2. ช่องธรรมดาใต้ช่องแช่แข็ง

ส่วนนี้ใกล้ช่องแช่แข็งที่สุด มีอุณหภูมิประมาณ 0-2 องศาเซลเซียสนั้นเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการเก็บรักษาอาหารที่มีความเสี่ยงต่อการเน่าเสียมาก เช่น เนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มีแบคทีเรียและสามารถเติบโตได้เร็ว การเก็บรักษาในอุณหภูมิต่ำนี้จะช่วยยับยั้งการเจิรญเติบโตของแบคทีเรียได้ดี การที่เนื้อสัตว์ถูกเก็บรักษาในช่องแช่แข็งนี้จะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดจากแบคทีเรียและสารอื่น ๆ ที่สามารถทำให้อาหารทำลายได้ อุณหภูมิต่ำจะช่วยให้เนื้อสัตว์คงคุณภาพนานขึ้นและลดการเสียหายของอาหาร

3. ช่วงกลางของตู้เย็น

บริเวณช่วงกลางของตู้เย็นที่มีอุณหภูมิประมาณ 5-7 องศาเซลเซียสนั้นเป็นช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสำหรับการยืดอายุและรักษาคุณค่าทางสารอาหารของอาหารได้ดี นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับการเก็บรักษาอาหารเกือบทุกประเภท

4. ประตูของตู้เย็น

โซนประตูของตู้เย็นมีอุณหภูมิประมาณ 10-15 องศาเซลเซียส นั้นเหมาะสำหรับการเก็บน้ำดื่มและเครื่องปรุงขนาดเล็ก ๆ โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเมื่อประตูถูกเปิดบ่อย จึงไม่ควรนำมาเก็บรักษาอาหารหรือของใช้ที่ต้องการอุณหภูมิคงที่ เช่น ยา ซึ่งต้องเก็บในช่องที่อุณหภูมิคงที่อยู่ในช่วง 2-8 องศาเซลเซียส สำหรับตู้เย็นบางรุ่นที่มีชั้นวางไข่อยู่บนสุดของประตู นั้นสามารถจัดเรียงของในตู้ตามนั้นได้ เพื่อให้การจัดเก็บเป็นไปอย่างเป็นระเบียบ

5. ชั้นวางด้านล่าง

ชั้นล่างสุดของตู้เย็นทั่วไปมักจะถูกออกแบบในรูปแบบของกล่องที่สามารถเปิด-ปิดได้ ซึ่งเหมาะสำหรับการแช่ผักและผลไม้ เนื่องจากอุณหภูมิที่อยู่ที่ประมาณ 7-10 องศาเซลเซียส และลักษณะของกล่องที่ปิดจะช่วยรักษาความชื้นในผักและผลไม้ เพื่อให้คงคุณค่าทางโภชนาการ วิตามิน แร่ธาตุไว้ในระดับที่สูง
การออกแบบในรูปแบบของกล่องที่สามารถเปิด-ปิดได้นี้มีประโยชน์ในการแยกแยะของในตู้เย็น ทำให้เราสามารถจัดเก็บผักและผลไม้ในพื้นที่ที่เป็นระเบียบ นอกจากนี้ ลักษณะปิดของกล่องยังช่วยในการรักษาความชื้นภายใน ทำให้ผักและผลไม้คงความสดใหม่นานขึ้น

ข้อควรระวัง

ควรหลีกเลี่ยงการนำอาหารมาแช่มากเกินไปจนแน่นชิดชนผนังตู้ เนื่องจากจะต้องมีช่องว่างให้ลมเย็นสามารถไหลเวียนได้อย่างทั่วถึง เพื่อรักษาการกระจายความเย็นในตู้เย็นให้มีประสิทธิภาพ และควรรอให้อาหารที่ปรุงสุกเย็นสนิทก่อนที่จะนำมาจัดเก็บเข้าตู้เย็น เพื่อให้ความเย็นภายในตู้เย็นมีความเสถียรและสม่ำเสมอ ห้ามนำเข้าตู้เย็นตอนที่อาหารยังร้อน เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นอาจทำให้การกระจายความเย็นในตู้เย็นไม่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังทำให้อาหารบูดได้ง่าย เพราะความเย็นที่สูงสามารถทำให้อาหารปรับตัวได้ยากและทำให้เสียคุณภาพได้
ติดตามความรู้ดี ๆ ได้ที่: Life Hack Online

หัวข้อเรื่อง

LifeHackBanner

บทความล่าสุด

LifeHackBanner
Scroll to Top