Polyhydroxy acids หรือ PHA เป็นอีกหนึ่งส่วนผสมสำคัญในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลายชนิด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประเภทลดเลือนจุดด่างดำ ลดรอยแผลเป็น ลดรอยสิว สารตัวนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยลดผิวหมองคล้ำและปรับสีผิวให้สว่างสม่ำเสมอกันอีกด้วย สำหรับใครที่ยังไม่คุ้นเคยกับกรดตัวนี้ และอยากรู้ว่า Polyhydroxy acids ดีต่อผิวไหม? และมีคุณสมบัติช่วยฟื้นบำรุงผิวอย่างไรบ้าง วันนี้เรามีคำตอบมาให้คะ
PHA หรือ Polyhydroxy acids คืออะไร?
PHA หรือ Polyhydroxy Acids (กรดโพลีไฮดรอกซี) เป็นสารเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่มีความอ่อนโยนต่อผิวพรรณมากๆ สารในกลุ่ม Polyhydroxy Acids ที่มักถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมในสกินแคร์ ได้แก่ gluconolactone, galactosen และ lactobionic acid คุณสมบัติอันโดดเด่นของพวกเขาคือ ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้ลอกหลุดออกไปได้อย่างง่ายดาย ทำให้ผิวหนังดูสดใสเนียนนุ่ม ปราศจากสิ่งสกปรกตกค้าง กรด PHA เป็นเจนเนอเรชั่นเดียวกับ AHA และ BHA นั้นเอง พวกเขาทั้งหมดเป็นสารที่มีพลังในการผลัดเซลล์ผิว
PHA แตกต่างจาก AHA และ BHA อย่างไร
ทั้ง 3 ตัวนี้มาจากตระกูลเดียวกันนะคะ เป็นพี่น้องกันประมาณนั้น มีคุณสมบัติช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ลดผิวหมองคล้ำ ลดรอยแดงรอยดำจากสิว พร้อมปรับโทนสีผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอกัน แต่จะมีความแตกต่างกันนิดหน่อยตรงที่กรด PHA จะมีโมเลกุลขนาดใหญ่กว่า AHA และ BHA ทำให้ซึมซับเข้าสู่ผิวหนังได้ช้าและไม่ลึกเท่ากับกรด AHA จึงไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวมากนัก แม้สภาพผิวบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้
Polyhydroxy acids หรือ PHA ช่วยแก้ปัญหาผิวด้านใด?
- ช่วยลดผิวคล้ำเสียจากแสงแดด
- ช่วยลดจุดด่างดำ ลดเลือนรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว
- ช่วยฟื้นฟูผิวล้าโทรมให้ดูสดใสขึ้น
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
- ช่วยปรับโทนสีผิวให้สว่างเนียนเรียบ สีผิวดูสม่ำเสมอกัน
ควรใช้ PHA บ่อยแค่ไหน?
แม้ว่าพวกมันจะถือว่าเป็นยักษ์ใหญ่ที่อ่อนโยน แต่ PHA ยังคงเป็นกรดในการขัดผิวทางเคมี และควรนำมาใช้ในชีวิตประจำวันด้วยวิธีที่ถูกต้อง หากคุณมีผิวที่บอบบางเป็นพิเศษ ขอแนะนำให้ทำการทดสอบแพทช์เป็นเวลา 24 ชั่วโมงหลังจากที่คุณปรึกษาแพทย์ทั่วไปหรือแพทย์ผิวหนังแล้ว เริ่มต้นด้วยการลองใช้ PHA สัปดาห์ละ 3 ครั้งในสูตรที่เหมาะกับกิจวัตรประจำวันของคุณมากที่สุด เช่น น้ำยาทำความสะอาดใบหน้า โทนเนอร์ เซรั่ม ฯลฯ เมื่อผิวของคุณสร้างความทนทานได้แล้ว คุณสามารถใช้ได้ทุกวันหากไม่มีอาการระคายเคือง อย่าลืมว่าอย่าใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวมากเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวขาดน้ำมันสำคัญได้
ผิวมันและเป็นสิวง่ายอาจได้ประโยชน์จากการใช้โทนเนอร์ที่มี PHA เนื่องจากวิธีการอ่อนโยนและคุณสมบัติการรักษาที่จะรักษาความกระจ่างใสของผิวโดยไม่รุนแรงเกินไปสำหรับผิว การผสม PHA กับส่วนผสมอื่นๆ ของผิวที่มีศักยภาพมากกว่า เช่น เรตินอล, AHA และ BHA แต่ควรใช้ด้วยความระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการกระตุ้นผิวมากเกินไป ส่งผลให้เกิดการผลิตซีบัมมากเกินไป ทำให้เกิดความไม่สมดุลของเกราะป้องกันผิวหนัง ความไม่สมดุลนี้อาจส่งผลให้เกิดจุดด่างดำ สัญญาณแห่งวัย สีผิวไม่สม่ำเสมอ และปัญหาผิวอื่นๆ ที่พบบ่อย เมื่อคุณพบส่วนผสมที่ดีที่สุดแล้ว คุณจะพบว่าผิวของคุณจะดูดีที่สุดจริงๆ
สรุป
ผิวสวยสุขภาพดีขึ้นได้ด้วยการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ และสกินแคร์มีบทบาทสำคัญเป็นตัวช่วยที่สามารถแก้ไขปัญหาผิวของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ละคนมีสภาพผิวและปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ดังนั้น การเลือกสกินแคร์ควรคำนึงถึงส่วนผสมที่สามารถตอบโจทย์ปัญหาผิวของเราได้อย่างเหมาะสม หากไม่แน่ใจก่อนที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ใดๆ ควรขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำอาง เพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมกับความต้องการของผิว การดูแลผิวด้วยสกินแคร์ไม่เพียงแต่เป็นกระบวนการบำรุงผิวเพื่อให้ผิวดูดี แต่ยังเป็นการเลือกที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาผิวของแต่ละคนอย่างแม่นยำ
ติดตามความรู้ดี ๆ ได้ที่ : Life Hack Online
